วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2559

น้ำยาหล่อเย็นจำเป็นหรือไม่ รู้ไว้เครื่องไม่พัง

 น้ำยาหล่อเย็นจำเป็นหรือไม่ รู้ไว้เครื่องไม่พัง


การดูแลรักษารถ ตรวจเช็คน้ำในระบบระบายความร้อนไม่ให้ขาดเป็นสิ่งที่หลายคนทำอยู่ประจำ แต่เคยสงสัยบ้างมั้ยว่า ทำไมรถบางคันเติมเพียงน้ำเปล่า แต่บางคันเติมน้ำยาหล่อเย็นมันต่างกันยังไง น้ำยาหล่อเย็น หรือ Coolant มีส่วนประกอบหลัก ประกอบไปด้วย น้ำ สารป้องกันสนิม สารหล่อเย็นและสี ซึ่งประโยชน์ของน้ำยาหล่อเย็นคือ


1.ช่วยเพิ่มจุดเดือดของน้ำในระบบระบายความร้อนให้สูงขึ้น ส่งผลให้น้ำเดือดช้าลงและถ่ายเทความร้อนในระบบหล่อเย็นได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลเรื่องการลดการสึกหรอและช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ 

2.ป้องกันการเกิดตะกอน ตะกรัน สนิมในระบบหล่อเย็น ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้หม้อน้ำ แผงหม้อน้ำ และทางเดินน้ำเกิดการอุดตันหรือรั่วซึม

3.เมื่อเกิดอาการน้ำรั่ว น้ำซึม สีของน้ำยาหล่อเย็นจะเป็นที่สังเกตได้ง่ายว่ารั่วซึมที่จุดไหน และแก้ปัญหาได้รวดเร็ว เครื่องยนต์จะไม่เสียหายมาก

4.ในประเทศที่มีอากาศเย็นจัดจะใช้น้ำยาหล่อเย็นเพื่อป้องกันการแข็งตัวของน้ำในระบบหล่อเย็น (ซึ่งในประเทศไทยคงไม่ได้ใช้ประโยชน์ในข้อนี้)

ชนิดของน้ำยาหล่อเย็นแบ่งแบบง่ายๆ มีอยู่ 2 ชนิด คือ

1.แบบพร้อมใช้ คือผสมมาให้เรียบร้อย ใช้งานได้ทันที เพียงถ่ายน้ำในระบบหล่อเย็นออก แล้วจึงใส่น้ำยาหล่อเย็นแบบผสมเรียบร้อยเข้าไปแทนที่

2.แบบเข้มข้น ซึ่งต้องนำมาผสมเองกับน้ำที่อยู่ในระบบหล่อเย็น ในอัตราส่วนที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ ซึ่งไม่ควรเติมมากหรือน้อยจนเกินไป เพราะการเติมน้ำยาหล่อเย็นในอัตราส่วนที่ผิดเพี้ยน อาจก่อให้เกิดปัญหากับอุปกรณ์ในระบบหล่อเย็นในระยะยาวได้ 


*** หากเราไม่ใช้ น้ำยาหล่อเย็น จะเป็นอะไรหรือไม่ ***  คำตอบคือ จะใช้แค่น้ำเปล่าหรือน้ำกลั่นก็ได้แต่มันจะส่งผลเสียต่อระบบระบายความร้อนและเครื่องยนต์ในระยะยาว เพราะหม้อน้ำรถยนต์ในปัจจุบันมักทำมาจากอะลูมิเนียม ทำให้สามารถเกิดสนิม ตะกรัน ตะกอน และเกิดการกัดกร่อนได้ง่าย ซึ่งถ้าปล่อยไว้มากๆ อาจถูกกัดกร่อนจนแตก ผุ รั่ว และนี่เองจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ระบบระบายความร้อนมีปัญหา น้ำในหม้อน้ำแห้ง จนความร้อนขึ้น หรือเครื่องโอเวอร์ฮีทนั่นเอง